โค้ดตัวอักษรวิ่ง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู Information and Communication Technology for Teachers

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

บ้านแมวไทย อัมพวา

บ้านแมวไทย"อัมพวา อนุรักษ์แมวไทยเพื่อคนไทย

แมวไทย เป็นแมวที่มีการยอมรับกันทั่วโลกว่า เป็นแมวขนสั้นที่สวยสง่าที่สุดของโลก และถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุดไม่แพ้สุนัข อุปนิสัย แมวไทยมีความฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิด รู้จักประจบ รักบ้าน รักเจ้าของ และเหนืออื่นใด คือ รักความอิสระของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ อิสระที่ จะกิน จะดื่ม หรือจะไปไหนตามที่ใจชอบ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัวที่ทำให้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นและอีกหลายเหตุผลที่บอกได้ไม่หมดว่าแมวน่ารักอย่างไร นอกจากจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนแล้ว แมวไทย ยังมีหน้าที่พิเศษคือการเป็นทูตวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า แมวไทยเป็นสัญลักษณ์ของชาติที่จะทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย พระองค์จึงทรงพระราชทานแมวไทยให้กับผู้แทนจากหลายๆ ประเทศ เช่น ทรงมอบแมววิเชียรมาศคู่หนึ่งให้แก่กงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย ซึ่งต่อมาแมวคู่นี้ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแมวทั่วโลก จนทำให้ แมววิเชียรมาศ หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ Siamese Cat นั้นโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของความฉลาดและความสวยสง่าและไม่เพียงแต่แมววิเชียรมาศเท่านั้นที่ฉลาดและน่ารักน่าเอ็นดู แต่ยังมีแมวไทยอีกหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่มีความน่ารักไม่แพ้กัน ซึ่งแมวพันธุ์ไทยเหล่านี้ ถูกเลี้ยงรวบรวมไว้ที่ "ศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน แมวไทยโบราณ" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "บ้านแมวไทย" ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คุณลุง ปรีชา พุคคะบุตร เจ้าของบ้านแมวไทยและเจ้าของแมวเหมียวสัญชาติไทยกว่า 70 ตัวภายในบ้าน เล่าเท้าความถึงความผูกพันของตัวเองกับแมวไทยที่เริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กว่า หน้าที่ของคุณลุงเมื่อสมัยเด็กๆ นั้นก็คือช่วยคุณแม่เลี้ยงแมว ซึ่งแมวที่คุณแม่ของคุณลุงเลี้ยงเอาไว้ก็คือแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณลุงรู้จักและรักแมวไทยมาตั้งแต่ตอนนั้น จนเมื่อเติบโตขึ้น แมวไทยก็ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านของคุณลุงอยู่เช่นเคย แต่เริ่มมีแมวไทยพันธุ์อื่นๆ นอกจากวิเชียรมาศเข้ามาเลี้ยงเพิ่มเติม



ในส่วนของการก่อตั้งบ้านแมวไทยนั้น คุณลุงเล่าให้ฟังว่า จากที่เลี้ยงแมวไว้ดูที่บ้านคนเดียว ก็มาเปิดเป็นบ้านแมวไทยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมเมื่อปี พ.ศ.2544 เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามในตอนนั้นมีนโยบายจะเปิดจังหวัดสมุทรสงครามให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วก็ได้ออกหาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ 6 จุด รวมบ้านแมวไทยด้วย ผู้ว่าฯ เลยขอร้องให้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด หลังจากเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ก็ได้มีการพัฒนาบ้านแมวไทยขึ้น เช่นทำหลังคาเป็นที่หลบแดดหลบฝนให้นักท่องเที่ยว เพราะบางวันก็มีแขกเข้ามาชมเยอะถึง 200-300 คนนอกจากนั้นก็ยังมีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาหาความรู้กันค่อนข้างมาก ลุงปรีชาจึงคิดแบ่งพื้นที่จัดทำเป็นนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องของแมวไทยชนิดต่างๆ และยังได้นำเอาภาพแมวไทยโบราณให้คุณให้โทษทั้ง 23 สายพันธุ์ที่ได้มาจากสมุดข่อยโบราณมาจัดแสดงให้ดูอีกด้วย